ผู้สมัครงาน
เลือกช่องทางติดต่อ
ในปัจจุบันเป็นยุคที่ Generative AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ มีการใช้ Generative AI เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา(May 8, 2024) โดยพนักงานมืออาชีพทั่วโลกถึง 75% ที่ได้นำ AI มาใช้ในการทำงานเพื่อรับมือกับปริมาณและความเร่งด่วนของงานที่เพิ่มมากขึ้น
เรากำลังเข้าสู่ช่วงการนำ Generative AI เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่อินเทอร์เน็ตหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ องค์กรที่สามารถนำ AI เข้ามาใช้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต จัดการต้นทุน และมอบคุณค่าที่มากกว่าให้แก่ลูกค้าได้ จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานก็เตรียมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยมี AI เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งการตัดสินใจเลือกจ้างพนักงานจากความสามารถด้าน AI อาจมีความสำคัญไม่แพ้กับประสบการณ์ จากผลการวิจัย Work Trend Index 2024 ที่ Microsoft และ LinkedIn ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการที่ AI จะเข้ามาปรับเปลี่ยนการทำงานและตลาดแรงงานในวงกว้าง โดยสำรวจคนกว่า 31,000 คนใน 31 ประเทศทั่วโลกพบว่า พนักงานในทุกกลุ่มอายุ ใช้เครื่องมือ AI ช่วยทำงาน โดยจากผลสำรวจพนักงานที่ใช้ AI ในการทำงานมากที่สุดเป็นกลุ่มคน Gen Z ที่มีอายุตั้งแต่ 18 - 28 ปี อยู่ที่ 85% กลุ่มคน Millennials หรือ Gen Y ที่มีอายุตั้งแต่ 29 - 42 ปี อยู่ที่ 78% กลุ่ม Genคน x ที่มีอายุตั้งแต่ 44-57 ปี อยู่ที่ 76% และกลุ่มคน Boomers อายุตั้งแต่ 58 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 73% รวมถึงพนักงานในไทยกว่า 92% นำนวัตกรรม AI มาใช้ในที่ทำงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่มีเพียง 75% ขณะเดียวกันผู้บริหารในไทยกว่า 90% มองว่าเขาจะเลือกจ้างพนักงานที่มีประสบการณ์น้อยแต่มีทักษะด้าน AI มากกว่า คนที่มีประสบการณ์มากกว่า แต่ไม่มีทักษะด้าน AI เลย
จากผลสำรวจ 31 ประเทศทั่วโลก เผยตำแหน่งงานที่มีการระบุทักษะด้าน AI ในเรซูเม่มากที่สุด 10 อันดับแรก ดังนี้
อันดับที่ 1 Content Writer – 33%
อันดับที่ 2 Graphic Designer – 27%
อันดับที่ 3 Marketing Manager – 24%
อันดับที่ 4 Front-End Developer – 19%
อันดับที่ 5 Entrepreneur – 19%
อันดับที่ 6 Product Designer – 18%
อันดับที่ 7 Operations Manager – 17%
อันดับที่ 8 Web Developer – 16%
อันดับที่ 9 Account Manager – 14%
อันดับที่ 10 Business Development Manager – 13%
จากการสำรวจ ผู้ที่ใช้ AI ในการทำงานกล่าวว่า Generative AI ช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำงานไปได้ถึง 90% ช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญที่สุดได้ถึง 85% ช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นถึง 84% และช่วยให้สนุกกับงานมากขึ้นถึง 83% จะเห็นได้ว่า AI ไม่เพียงช่วยให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
การมาของ AI ไม่เพียงนำเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่การทำงาน แต่ยังเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำเป็นในอนาคตสำหรับการทำงาน โดยคาดการณ์ว่า 5 ทักษะที่เติบโตเร็วที่สุดในหมู่คนทำงานมืออาชีพภายในปี 2030 จากข้อมูลในไทยบนแพลตฟอร์ม LinkedIn ได้แก่:
• Strategic Thinking (การคิดเชิงกลยุทธ์): ความสามารถในการวางแผนและมองภาพรวม เพื่อกำหนดทิศทางและการตัดสินใจในองค์กร
• Stakeholder Management (การจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย): ทักษะในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในองค์กร ช่วยให้การดำเนินงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
• Critical Thinking (ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์): การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นหัวใจของการตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับ และช่วยให้การแก้ปัญหามีความรอบคอบมากขึ้น
• Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์): ทักษะด้าน AI จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานและการขับเคลื่อนนวัตกรรมในทุกๆ อุตสาหกรรม
• Business Analysis (การวิเคราะห์เชิงธุรกิจ): การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำความเข้าใจตลาดและวางกลยุทธ์การดำเนินงาน จะเป็นที่ต้องการในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
การพัฒนาทักษะเหล่านี้จึงจำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI และนวัตกรรม
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : https://www.microsoft.com/en-us/worklab/work-trend-index/ai-at-work-is-here-now-comes-the-hard-part และ https://www.thairath.co.th/lifestyle/tech/2794505
สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR : hrbuddybyjobbkk@gmail.com
อัปเดตความรู้สำหรับคนหางาน คนทำงาน สามารถติดตามได้ที่ https://jobbkk.com/go/kr0ws
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
